การจัดฟันเป็นการรักษาที่ต้องดูแลอย่างต่อเนื่องแม้จะเสร็จสิ้นการรักษาแล้ว เพราะฟันอาจกลับมาผิดรูป หรือเกิดปัญหาฟันล้มได้หากไม่ได้รับการดูแลที่เหมาะสม การป้องกันและการรักษาที่ถูกต้องจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อรักษาผลลัพธ์ที่สวยงามจากการจัดฟันให้คงอยู่ตลอดไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงหลังจากถอดเครื่องมือจัดฟันไปไม่นาน ซึ่งเป็นช่วงที่ฟันมีโอกาสเคลื่อนตัวได้ง่ายที่สุด
Table of Contents
Toggleอาการฟันล้มคืออะไร ?
ฟันล้มเป็นยังไง ? ลักษณะของอาการฟันล้ม
อาการฟันล้มหลังจัดฟันมีลักษณะเด่นชัด คือ ฟันเริ่มเคลื่อนตัวออกจากตำแหน่งที่ถูกจัดไว้ ทำให้ฟันมีการเรียงตัวที่ผิดปกติ เกิดช่องว่างระหว่างฟัน หรือฟันซ้อนเกยกันเหมือนก่อนการจัดฟัน ในระยะแรก ผู้ป่วยอาจสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย เช่น รีเทนเนอร์เริ่มใส่ไม่พอดี หรือมีช่องว่างเล็ก ๆ ระหว่างฟัน
สัญญาณเตือนฟันล้มที่ควรสังเกตมีหลายประการ เช่น รีเทนเนอร์ใส่ไม่พอดี รู้สึกอึดอัดเมื่อใส่ มีช่องว่างระหว่างรีเทนเนอร์กับตัวฟัน ฟันหน้าเริ่มซ้อนกันเล็กน้อย หรือสังเกตเห็นช่องว่างระหว่างฟันที่ไม่เคยมีมาก่อน นอกจากนี้ อาจมีอาการเคี้ยวอาหารไม่สะดวก หรือรู้สึกว่าฟันสบกันไม่เหมือนเดิม
ผลกระทบต่อสุขภาพช่องปากและความสวยงาม
ผลกระทบของฟันล้มมีดังนี้
- ด้านความสวยงาม : การเรียงตัวของฟันที่ผิดปกติจะส่งผลต่อรูปลักษณ์ของใบหน้าและรอยยิ้ม ทำให้ขาดความมั่นใจในการเข้าสังคม
- ด้านสุขภาพช่องปาก : การเรียงตัวของฟันที่ผิดปกติอาจทำให้เกิดปัญหาในการบดเคี้ยวอาหาร การทำความสะอาดช่องปากทำได้ยากขึ้น เสี่ยงต่อการเกิดฟันผุและเหงือกอักเสบ และอาจนำไปสู่ปัญหาที่ข้อต่อขากรรไกรในระยะยาว
ระดับความรุนแรงของอาการ
ระดับความรุนแรงของอาการฟันล้มแบ่งได้เป็น 3 ระดับ
- ระดับเล็กน้อย มีการเคลื่อนตัวของฟันเพียงเล็กน้อย สามารถแก้ไขได้ด้วยการใส่รีเทนเนอร์อย่างเคร่งครัด
- ระดับปานกลาง มีการเคลื่อนตัวของฟันที่เห็นได้ชัดเจน อาจต้องการการรักษาเพิ่มเติม เช่น การใส่เครื่องมือประคองฟันชนิดพิเศษ
- ระดับรุนแรง มีการเคลื่อนตัวของฟันมาก จำเป็นต้องได้รับการจัดฟันใหม่
สาเหตุของฟันล้ม
การไม่ใส่รีเทนเนอร์หลังจัดฟันตามคำแนะนำของทันตแพทย์
การไม่ใส่รีเทนเนอร์ เป็นสาเหตุหลักของฟันล้มหลังจัดฟันที่พบบ่อยที่สุด โดยในช่วงแรกหลังถอดเครื่องมือจัดฟัน ทันตแพทย์มักแนะนำให้ใส่รีเทนเนอร์ตลอดเวลา ยกเว้นเวลารับประทานอาหารและแปรงฟัน เนื่องจากการไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำนี้จะทำให้ฟันมีโอกาสเคลื่อนตัวกลับสู่ตำแหน่งเดิมได้ จากนั้นเมื่อผ่านไประยะหนึ่งอาจค่อย ๆ ลดเวลาการใส่ลงเหลือเฉพาะตอนนอน
การถอนฟันโดยไม่ใส่ฟันปลอมทดแทน
นอกจากการดูแลหลังจัดฟันที่ไม่เหมาะสมแล้ว การถอนฟันโดยไม่ใส่ฟันปลอมทดแทนก็เป็นอีกสาเหตุสำคัญที่อาจทำให้ฟันล้มได้ เพราะเมื่อถอนฟันออกไป ช่องว่างที่เกิดขึ้นจะทำให้ฟันข้างเคียงมีแนวโน้มเคลื่อนเอียงเข้าหาช่องว่าง อีกทั้งฟันคู่สบก็อาจงอกยาวขึ้นมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้จะส่งผลกระทบต่อการเรียงตัวของฟันทั้งปาก
ความผิดปกติของขากรรไกร
ความผิดปกติของขากรรไกรก็เป็นสาเหตุสำคัญ โดยเฉพาะในผู้ที่มีนิสัยการนอนกัดฟัน การกัดฟันเพราะความเครียด หรือมีความผิดปกติของข้อต่อขากรรไกร แรงกดที่ผิดปกติเหล่านี้จะส่งผลให้ฟันเคลื่อนตัวได้แม้จะใส่รีเทนเนอร์อย่างสม่ำเสมอ
การเปลี่ยนแปลงตามวัย
การเปลี่ยนแปลงตามวัยเป็นปัจจัยธรรมชาติที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เมื่ออายุมากขึ้น กระดูกขากรรไกรและเนื้อเยื่อรอบ ๆ ฟันจะมีการเปลี่ยนแปลง ส่งผลให้ฟันมีโอกาสเคลื่อนตัวได้ โดยเฉพาะฟันหน้าด้านล่างที่มักจะเกิดการซ้อนเกยกันเมื่ออายุมากขึ้น
ฟันล้มต้องทำอย่างไร ? : วิธีการรักษาฟันล้ม
การรักษาฟันล้มมีหลายวิธี ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการและสาเหตุ
การใส่รีเทนเนอร์ประคองฟัน
การใส่รีเทนเนอร์ เป็นวิธีการรักษาที่เหมาะสำหรับกรณีที่ฟันเพิ่งเริ่มมีการเคลื่อนตัวเล็กน้อย รีเทนเนอร์จะช่วยดันฟันให้กลับเข้าสู่ตำแหน่งที่ถูกต้อง อย่างไรก็ตาม วิธีนี้จะได้ผลดีเฉพาะในช่วงแรกที่ฟันเริ่มล้มเท่านั้น
การใส่ฟันปลอม
การใส่ฟันปลอม เป็นทางเลือกหนึ่งในกรณีที่มีการสูญเสียฟัน โดยมีทั้งแบบถอดได้เพื่อให้สามารถถอดทำความสะอาดได้ง่าย และแบบติดแน่น เช่น ครอบฟันหรือรากฟันเทียม ซึ่งให้ความรู้สึกและการใช้งานใกล้เคียงฟันธรรมชาติมากที่สุด
การจัดฟันใหม่
ในกรณีที่อาการรุนแรง การจัดฟันใหม่อาจเป็นทางเลือกที่จำเป็น โดยส่วนมากแล้วการจัดฟันรอบที่สองจะนิยมเลือกการจัดฟันแบบใสที่สามารถถอดทำความสะอาดได้และมองเห็นได้ยาก ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความสวยงามระหว่างการรักษาด้วย
การป้องกันฟันล้มหลังจัดฟัน
การดูแลสุขภาพช่องปากอย่างสม่ำเสมอ
การดูแลสุขภาพช่องปากอย่างสม่ำเสมอเป็นพื้นฐานในการป้องกันฟันล้ม โดยควรแปรงฟันอย่างถูกวิธีอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง ใช้ไหมขัดฟันทำความสะอาดซอกฟัน และใช้น้ำยาบ้วนปากเพื่อลดแบคทีเรีย เนื่องจากการดูแลสุขภาพช่องปากที่ดีจะช่วยป้องกันโรคเหงือกอักเสบซึ่งอาจส่งผลให้ฟันเคลื่อนตัวได้
การใส่รีเทนเนอร์ตามคำแนะนำ
การใส่รีเทนเนอร์ตามคำแนะนำของทันตแพทย์เป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการป้องกันฟันล้ม โดยเฉพาะในช่วงปีแรกหลังการถอดเครื่องมือจัดฟัน ควรใส่รีเทนเนอร์ตามระยะเวลาที่กำหนด ทำความสะอาดรีเทนเนอร์อย่างถูกวิธี และเก็บรักษาอย่างเหมาะสมเมื่อไม่ได้ใส่เสมอ
การตรวจสุขภาพช่องปากเป็นประจำ
การตรวจสุขภาพช่องปากเป็นประจำอย่างน้อยทุก 6 เดือนจะช่วยให้ทันตแพทย์สามารถตรวจพบความผิดปกติได้ตั้งแต่ระยะเริ่มต้น โดยทันตแพทย์จะตรวจสอบการเรียงตัวของฟัน สภาพรีเทนเนอร์ และปัญหาอื่น ๆ ที่อาจส่งผลต่อการเคลื่อนตัวของฟัน โดยการตรวจพบและแก้ไขปัญหาตั้งแต่ต้นจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาในการรักษาได้
หากคุณกำลังประสบปัญหาฟันล้มหลังจัดฟัน อย่าปล่อยทิ้งไว้จนอาการรุนแรงขึ้น ควรรีบปรึกษาทันตแพทย์เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม เพราะยิ่งปล่อยไว้นาน การรักษาก็จะยิ่งซับซ้อนและมีค่าใช้จ่ายสูงขึ้น ที่ About Tooth Dental เรามีทีมทันตแพทย์พร้อมให้คำปรึกษาและดูแลรักษาปัญหาฟันล้มด้วยเทคโนโลยีทันสมัย ทั้งการจัดฟันแบบโลหะและจัดฟันใส การทำรีเทนเนอร์แบบใสและแบบลวด และบริการทางทันตกรรมอื่น ๆ อย่างครบครัน สามารถนัดเข้ามาสอบถามและปรึกษาปัญหากับทันตแพทย์ หรือทำการนัดหมายได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 080-481-5555 และ LINE : @abouttooth (มี @ ด้วย) หรือช่องทางติดต่ออื่น ๆ ของคลินิก About Tooth Dental
แหล่งอ้างอิง
- Are Retainers Necessary After Orthodontic Treatment?. สืบค้นเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2568 จาก https://aaoinfo.org/whats-trending/will-i-need-to-wear-retainers/

ทพญ. ณิศรา ธนฤกษ์ชัย ทันตแพทย์ด้านทันตกรรมรากฟันเทียม ทันตกรรมจัดฟัน และเฉพาะทางด้านวีเนียร์ สำเร็จการศึกษาจากคณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีประสบการณ์การทำงานยาวนานและได้รับประกาศนียบัตรทันตกรรมในหลายสาขา ได้แก่ ทันตกรรมทั่วไปขั้นสูง ทันตกรรมรากเทียม ทันตกรรมจัดฟันขั้นสูง ประกาศนียบัตรวีเนียร์ Bootcamp และ Masterclass ตลอดจนใบรับรองผู้ให้บริการจัดฟันแบบใส Invisalign ระดับ Platinum Provider 2021 และ Zenyum ระดับ Star tier 2023
ปัจจุบันเป็นผู้ก่อตั้ง About Tooth Dental Clinic ซึ่งได้รับรางวัล World Class Award 2021 สาขา The Best of International Healthy Business ตลอดจนดำรงตำแหน่งเป็นสมาชิกของสมาคมทันตกรรมรากเทียมแห่งประเทศไทย (TADI)