รากฟันเทียมมอบรอยยิ้มให้แข็งแรงและมั่นใจอีกครั้ง รากฟันเทียมเป็นหนึ่งในการรักษาที่เหมาะกับผู้ที่สูญเสียฟันตั้งแต่หนึ่งซี่ขึ้นไป รากฟันเทียมช่วยทดแทนฟันที่หายด้วยลักษณะฟันที่ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพและยาวนาน นอกจากนี้ยังมีลักษณะใกล้เคียงฟันธรรมชาติอีกด้วย ในบทความนี้จะพาไปทำความรู้จัก รากฟันเทียมคืออะไร ? มีขั้นตอนอย่างไร ? และมีวิธีการดูแลอย่างไร ?
หัวข้อสำคัญ | รากฟันเทียม
Toggleรากฟันเทียมคืออะไร ?
การทำรากฟันเทียม คือการผ่าตัดในกระดูกขากรรไกร เพื่อฝังรากเทียมซึ่งเป็นวัสดุคล้ายรากฟันที่ทำมาจากไทเทเนียม ลงไปแทนที่รากฟันที่สูญเสียไปแบบถาวร ปกติแล้วรากฟันเทียมจะผสานและยึดเข้ากับกระดูกขากรรไกรที่อยู่รอบ ๆ โดยจะใช้ระยะเวลาประมาณ 2-4 เดือน แต่หากต้องการปลูกกระดูกเพิ่มร่วมด้วยอาจเพิ่มระยะเวลามากขึ้นถึง 6 เดือน
รากฟันเทียมทำจากอะไร ?
โดยทั่วไปการฝังรากเทียม นิยมทำจากวัสดุไทเทเนียม เนื่องจากเป็นโลหะที่มีคุณสมบัติพิเศษหลายอย่างที่ทำให้เหมาะกับการนำมาใช้เป็นรากฟันเทียม เช่น
- เข้ากันได้ดีกับเนื้อเยื่อในร่างกาย ทำให้ร่างกายไม่ปฏิเสธและไม่เกิดการอักเสบ
- แข็งแรงทนทานสูง สามารถรับแรงเคี้ยวได้ดี และมีอายุการใช้งานยาวนาน
- ไม่เป็นสนิม จึงไม่เกิดการกัดกร่อนในช่องปาก
- น้ำหนักเบา ทำให้ผู้ที่ใส่รากฟันเทียมรู้สึกสบาย ใช้ชีวิตได้อย่างเป็นปกติ
หลักการทำงานของรากฟันเทียม
การรักษารากฟันเทียม มีหลักในการทำงานคือ การทดแทนรากฟันที่สูญเสียไป ด้วยวัสดุที่ทำจากไทเทเนียม ซึ่งเป็นโลหะที่มีความเข้ากันได้ดีกับกระดูกและเนื้อเยื่อในร่างกาย เมื่อฝังรากเทียมลงไปในกระดูกขากรรไกร รากเทียมจะเกิดกระบวนการ Osseointegration คือการยึดติดกับกระดูกได้อย่างแข็งแรงเหมือนรากฟันแท้ เพื่อให้สามารถใช้ฟันในการบดเคี้ยวอาหารได้อย่างเป็นปกติต่อไป
ใครที่เหมาะกับการทำรากฟันเทียม?
การฝังรากฟันเทียมนั้นจะเหมาะกับผู้ที่เคยถอนฟัน หรือรู้ตัวว่าจำเป็นจะต้องถอนฟันซี่นั้นๆ ออก เนื่องจากฟันผุมากเกินไป รวมถึงมีปัญหาเกี่ยวกับรากฟัน จนคุณหมอพิจารณาแล้วว่าไม่สามารถทำการรักษาด้วยวิธีการอื่นได้ จึงต้องทำการรักษาด้วยการใส่รากฟันเทียมแทน
ประเภทของรากฟันเทียม
ประเภทของรากฟันเทียมสามารถแบ่งได้ตามตำแหน่งที่ฝัง และจำนวนของฟันเทียมที่ใช้ทดแทน ดังนี้
รากฟันเทียมเดี่ยว
เหมาะสำหรับผู้ที่สูญเสียฟันเพียงซี่เดียว โดยทันตแพทย์จะทำการฝังรากเทียมลงไปที่ตำแหน่งของฟันที่สูญเสียไป แล้วจึงติดตั้งครอบฟันลงไปบนรากเทียม
รากฟันเทียมหลายซี่
เหมาะสำหรับผู้ที่สูญเสียฟันมากกว่าหนึ่งซี่ ในตำแหน่งที่ติดต่อกัน ทันตแพทย์จะใส่รากเทียมหลาย ๆ ซี่ แล้วจึงเชื่อมต่อกับสะพานฟัน เพื่อทดแทนฟันที่สูญเสียไป
รากฟันเทียมทั้งปาก
เหมาะสำหรับผู้ที่สูญเสียฟันทั้งหมดในขากรรไกรบนหรือล่าง โดยทันตแพทย์จะใส่รากเทียมหลาย ๆ ซี่ แล้วเชื่อมต่อกับสะพานฟัน พร้อมติดตั้งฟันปลอมแบบติดแน่นลงบนรากเทียม
รากฟันเทียมร่วมกับฟันปลอมชนิดถอดได้
เหมาะกับผู้ที่สูญเสียฟันทั้งหมดในขากรรไกรบนหรือล่าง โดยทันตแพทย์จะใส่รากฟันเทียม 2-4 ราก และมีส่วนที่เชื่อมกับฟันปลอมชนิดถอดได้ ทำให้สามารถถอดฟันปลอมออกมาทำความสะอาดด้วยตัวเองได้ง่าย และเพิ่มความเสถียรและติดแน่นให้กับฟันปลอมมากขึ้นได้
ข้อดีของการทำรากฟันเทียม
คืนความมั่นใจให้รอยยิ้ม
รากฟันเทียมมีลักษณะใกล้เคียงกับฟันธรรมชาติ ทำหน้าที่เหมือนฟันปลอมแบบติดแน่น ช่วยเติมเต็มในส่วนที่ฟันหาย มอบความมั่นใจคืนสู่รอยยิ้มอีกครั้ง
ใช้งานเหมือนฟันธรรมชาติ
รากฟันเทียมสามารถทำหน้าที่บดเคี้ยวได้เหมือนฟันจริง ช่วยให้การเคี้ยว การพูด กลับมาเหมือนฟันธรรมชาติอย่างแท้จริง
อายุการใช้งานนานและทนทาน
การดูแลที่เหมาะสม จะทำให้รากฟันเทียมมีอายุการใช้งานได้ตลอดชีวิต เพื่อเป็นทางเลือกในการทดแทนฟันที่เสียหายได้อย่างคุ้มค่าในระยะยาว
รักษาสุขภาพช่องปาก
การใส่รากฟันเทียมไม่จำเป็นต้องกรอแต่งฟันข้างเคียงเหมือนกับการใส่ฟันปลอมแบบติดแน่นชนิดอื่น
ขั้นตอนการทำรากฟันเทียม
1. ปรึกษากับทันตแพทย์
นัดหมายกับทันตแพทย์ชำนาญการ เพื่อปรึกษาและตรวจสุขภาพช่องปากโดยรวม รวมถึงการเอกซเรย์ช่องปากเพื่อทำการประเมินและวางแผนการรักษา โดยจะมีการปรับให้เหมาะสมกับคนไข้แต่ละคน
2. การฝังรากฟันเทียม
หลังจากประเมินและวางแผนการรักษาเรียบร้อย ทันตแพทย์จะนัดหมายเพื่อทำการผ่าตัดใส่รากเทียมเข้าไปในกระดูกขากรรไกร โดยจะใช้ยาชาร่วมเพื่อลดอาการเจ็บระหว่างการรักษา
3. ช่วงพักฟื้น
หลังจากการใส่รากฟันเทียม จำเป็นต้องใช้ระยะเวลาในการพักฟื้นเพื่อให้สภาพช่องปากฟื้นฟู และในช่วงนี้รากฟันเทียมจะสมานรวมกับกระดูกที่อยู่รอบ ๆ ใช้เวลาประมาณ 2-3 เดือนในการพักฟื้น
4. ใส่เดือยและพิมพ์ปาก
เมื่อกระดูกและรากเทียมสมานจนสามารถใช้งานได้แล้ว จะมีการใส่เดือยเพื่อเป็นหลักยึดเข้ากับรากฟันเทียมเพื่อเป็นฐานรองรับฟันเทียม และทำการพิมพ์ปากเพื่อทำชิ้นงานครอบฟัน
5. ใส่ที่ครอบฟัน
ขั้นตอนสุดท้ายจะทำการใส่ที่ครอบฟันที่สั่งทำเพื่อยึดเข้ากับเดือย ทำให้เกิดฟันทดแทนที่ดูเป็นธรรมชาติและใช้งานเหมือนอย่างฟันปกติ
วิธีการดูแลรักษารากฟันเทียม
ดูแลสุขภาพช่องปากอย่างสม่ำเสมอ
การใช้ไหมขัดฟันร่วมกับการแปรงฟันเป็นประจำ จะช่วยรักษาความสะอาดของรากฟันเทียมและเหงือกโดยรอบ รวมทั้งควรตรวจสุขภาพช่องปากเป็นประจำ
หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์
การสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ นอกจากทำลายสุขภาพช่องปากแล้ว การสูบบุหรี่ยังลดการไหลเวียนของเลือดไปยังเหงือกและกระดูก ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อความสามารถในการรวมตัวของกระดูกขากรรไกร และการดื่มแอลกอฮอล์นั้นทำให้สุขภาพแย่ลงซึ่งทำให้การพักฟื้นนานขึ้นอีกด้วย
หลีกเลี่ยงการกัดอย่างแรง
ควรหลีกเลี่ยงการเคี้ยวอาหารที่มีความแข็ง และงดพฤติกรรมที่ใช้ฟันในการเปิดขวด เนื่องจากสามารถสร้างความเสียหายต่อรากฟันเทียมได้
ตรวจสุขภาพช่องปากเป็นประจำ
ควรพบทันตแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพช่องปากเป็นประจำ เพื่อติดตามผลการรักษารากฟันเทียม เพราะหากมีปัญหาจะช่วยให้สามารถแก้ไขได้ทันท่วงที
รากฟันเทียมอยู่ได้นานแค่ไหน ?
หากดูแลและบำรุงรักษารากฟันเทียมอย่างถูกต้องและเหมาะสม รากฟันเทียมจะมีอายุการใช้งานได้อย่างยาวนานและทนทานตลอดชีวิต เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาว
การทำรากฟันเทียมเจ็บไหม ?
ในระหว่างการรักษาจะมีการฉีดยาชาบริเวณที่ทำรากเทียม จึงไม่รู้สึกเจ็บปวด แต่หลังจากรักษาอาจจะรู้สึกไม่สบายบริเวณที่ทำรากเทียม หรือรู้สึกปวด แต่อาการเหล่านี้สามารถจัดการและบรรเทาได้ด้วยยาแก้ปวด
การฟื้นฟูบูรณะฟันแบบทั้งปาก (All-on-4) คืออะไร และแตกต่างจากรากฟันเทียมแบบปกติอย่างไร ?
All-on-4 หรือการฟื้นฟูบูรณะฟันแบบทั้งปาก คือหนึ่งในเทคนิคการทำรากฟันเทียมที่ได้รับการออกแบบมาสำหรับผู้ที่มีการสูญเสียฟันจำนวนมาก โดยจะทำการฝังรากฟันเทียมสี่ซี่บริเวณที่สูญเสียฟัน ซึ่งจะใช้จำนวนรากฟันเทียมที่มากกว่าแบบปกติและต้องใช้ทันตแพทย์ชำนาญการด้านนี้โดยเฉพาะ
การทำรากฟันเทียมราคาเท่าไร ?
การทำรากฟันเทียมพร้อมครอบฟันเซรามิก (1 ซี่) | ราคา |
รากฟันเทียมเกาหลี (Korean implant) | 51,000 บาท |
รากฟันเทียมยี่ห้อ Hiossen (Hiossen implant) | 61,000 บาท |
รากฟันเทียมยี่ห้อ Zimmer (Zimmer implant) | 71,000 บาท |
รากฟันเทียม ITI straumann (ITI straumann implant) | 91,000 บาท |
หากถอนฟันวันนี้แล้วฝังรากเทียมทันทีเลยได้มั้ย ?
คำตอบคือคุณสามารถถอนฟันแล้วฝังรากเทียมเลยได้ ถ้าหากตำแหน่งฟันที่ถอนมีมวลกระดูกเพียงพอสำหรับการฝัง กระดูกไม่ละลายไปมาก และสภาวะร่างกายของคนไข้พร้อม ก็สามารถทำการถอนฟันแล้วฝังรากฟันเทียมในวันนั้นได้เลย โดยเราจะเรียกวิธีการนี้ว่า Immediate Implant
ถอนแล้วค่อยมาฝังรากฟันเทียมรอบหน้าได้มั้ย ต้องรอระยะเวลานานเท่าไหร่หลังถอนฟัน ?
เพื่อให้การใส่รากฟันเทียมได้ประสิทธิภาพมากที่สุด ควรที่จะต้องถอนฟันแล้วรอเวลาประมาณ 2 เดือน เพื่อให้ร่างกายสร้างกระดูกขึ้นมาเติมเต็มร่องที่ถูกถอนออกไป (Socket) เพื่อให้การฝังรากฟันเทียมให้ผลดีที่สุด
ในกรณีที่กระดูกบริเวณที่จะต้องใส่รากฟันเทียมไม่เพียงพอ ไม่ว่าจะเกิดจากการที่ฟันในตำแหน่งนั้นถูกถอนมานานมากๆ แล้ว หรือกรณีอื่ืนๆ จนทำให้กระดูกละลายหายไปจนไม่เหลือพื้นที่พอสำหรับการใส่รากฟันเทียม ทำให้ต้องมีการปลูกกระดูกเพิ่มเติม หรือที่เรียกว่า Bone Graft จะต้องทิ้งระยะเวลาหลังจากฝังรากฟันเทียมประมาณ 6 เดือน ถึงจะสามารถใส่ครอบฟันได้
ที่ About Tooth เรามีบริการใส่รากฟันเทียมพร้อมให้คำแนะนำเกี่ยวกับการทำรากฟัน จากคุณหมอผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้คุณมั่นใจว่า การทำรากเทียมนั้นไม่ใช่เรื่องน่ากลัวอย่างที่คิด คุณสามารถสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับการทำรากฟันเทียมและราคาค่าใช้จ่ายได้ที่นี่
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการทำรากฟันเทียม
Q: ใครเป็นผู้ที่เหมาะสมสำหรับการทำรากฟันเทียม และมีข้อควรพิจารณาอะไรบ้าง ?
A: ผู้ที่เหมาะสมสำหรับการทำรากฟันเทียม ได้แก่
- ผู้ที่สูญเสียฟันหนึ่งซี่ หรือมากกว่า
- ผู้ที่มีสุขภาพช่องปากดีพอที่จะรองรับการฝังรากฟันเทียม
- ผู้ที่มีกระดูกขากรรไกรแข็งแรงเพียงพอ
- ผู้ที่มีสุขภาพโดยรวมดี ไม่มีโรคประจำตัวที่อาจส่งผลต่อการรักษา
ทั้งนี้ ควรปรึกษาทันตแพทย์ผู้ชำนาญการเพื่อตรวจสอบสภาพกระดูกขากรรไกรและประเมินสุขภาพโดยรวมก่อนตัดสินใจทำรากฟันเทียม
Q: รากฟันเทียมมีข้อได้เปรียบอย่างไร เมื่อเทียบกับสะพานฟัน หรือฟันปลอมแบบถอดได้ ?
A: รากฟันเทียมมีข้อได้เปรียบหลายประการเมื่อเทียบกับสะพานฟัน หรือฟันปลอมแบบถอดได้ ดังนี้
- ความแข็งแรงและเสถียร รากฟันเทียมฝังลงในกระดูกโดยตรง ทำให้มีความมั่นคงสูง
- การรักษาฟันธรรมชาติ ไม่จำเป็นต้องกรอฟันข้างเคียงเพื่อรองรับเหมือนสะพานฟัน
- ความสะดวกสบาย ให้ความรู้สึกและการใช้งานใกล้เคียงกับฟันธรรมชาติมากที่สุด
- ความยั่งยืน มีอายุการใช้งานยาวนานกว่าทางเลือกอื่น หากได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม
- การป้องกันการสูญเสียมวลกระดูก ช่วยกระตุ้นการสร้างกระดูกรอบ ๆ รากฟันเทียม
Q: การฝังรากฟันเทียมมีความปลอดภัยหรือไม่ ?
A: การฝังรากฟันเทียม ถือเป็นการรักษาทางทันตกรรมที่มีความปลอดภัยสูง เมื่อทำโดยทันตแพทย์ผู้ชำนาญการ และได้รับการดูแลติดตามผลหลังการรักษาอย่างใกล้ชิด
Q: ค่าใช้จ่ายในการฝังรากฟันเทียมมีปัจจัยอะไรบ้างที่ส่งผลต่อราคา ?
A: ค่าใช้จ่ายในการฝังรากฟันเทียมขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ได้แก่
- จำนวนรากฟันที่ต้องฝัง
- ตำแหน่งของฟันที่ต้องทำการรักษา
- คุณภาพและปริมาณของกระดูกที่รองรับ
- วัสดุที่ใช้ในการทำรากฟันเทียมและครอบฟัน
ทั้งนี้ ควรปรึกษาทันตแพทย์เพื่อทราบรายละเอียดค่าใช้จ่ายที่แน่นอน
Q: การทำรากฟันเทียมเจ็บไหม ?
A: การทำรากฟันเทียมนั้นไม่เจ็บ เพราะทันตแพทย์จะใช้ยาชาเฉพาะที่ก่อนทำการรักษา ทำให้รู้สึกสบายตลอดขั้นตอนการรักษา แต่หลังจากเสร็จสิ้นกระบวนการรักษา อาจมีอาการปวดหรือรู้สึกไม่สบายบริเวณที่ทำบ้างเล็กน้อย ซึ่งเป็นเรื่องปกติและสามารถบรรเทาได้ด้วยยาแก้ปวด
รากฟันเทียมช่วยเปลี่ยนแปลงรอยยิ้มและเรียกคืนความมั่นใจจากการสูญเสียฟัน และเป็นวิธีการแก้ปัญหาฟันหายอย่างถาวร มีลักษณะดูเป็นธรรมชาติ และใช้งานได้จริง หากได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม การใส่รากฟันเทียมสามารถใช้งานได้ตลอดชีวิต ทำให้เป็นการลงทุนที่คุ้มค่า คุ้มราคาในระยะยาว และยังดีต่อสุขภาพช่องปากโดยรวม หากสนใจทันตกรรมนี้แต่ยังไม่แน่ใจว่าควรทำรากฟันเทียมที่ไหนดี เชิญปรึกษาทันตแพทย์ชำนาญการด้านรากฟันเทียมได้ที่ About Tooth Dental Clinic สามารถติดต่อได้ที่ LINE : @abouttooth
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรากเทียม คลิก!
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับนวัตกรรมรากฟันเทียม คลิก!