Table of Contents
Toggleดูแลสุขภาพช่องปากอย่างไรไม่ให้มีปัญหาระหว่างจัดฟันใส
ในการจัดฟันแบบใส หลายคนอาจจะเริ่มกังวลเกี่ยวกับการทำฟันและสุขภาพช่องปาก แม้ว่าบางคนอาจจะคิดว่าไม่จำเป็นต้องดูแลสุขภาพช่องปากมากขนาดนั้นก็ได้ เพียงแค่แปรงฟันให้เหมือนกับทุกครั้งก่อนเริ่มจัดฟัน แต่รู้หรือไม่ว่า นั่นอาจจะทำให้ช่องปากของคุณไม่ได้รับการดูแลที่ดี และอาจทำให้เกิดปัญหาตามมาภายหลังได้ ทั้งปัญหาฟันผุหลังจัดฟัน มีกลิ่นปาก หรือแม้กระทั่งปัญหาที่เกิดขึ้นกับเหงือกต่าง ๆ
เราจะพาทุกคนไปดูกันว่าปัญหาของคนจัดฟันแบบใสมีอะไรบ้าง และจะมีวิธีการดูแลสุขภาพสุขภาพช่องปากขณะจัดฟันในรูปแบบนี้ได้อย่างไร ถ้าพร้อมแล้ว ตามมาดูกัน
ปัญหาหลัก ๆ ที่มักเกิดขึ้นกับคนจัดฟัน
1. ปัญหาฟันผุหลังจัดฟัน
สำหรับคนที่จัดฟัน ไม่ว่าจะเป็นการจัดฟันแบบเหล็กหรือการจัดฟันแบบใส ปัญหานี้อาจเกิดขึ้นได้หากไม่ดูแลรักษาและทำความสะอาดฟันอย่างได้ดีพอ เพราะปัญหาฟันผุมักจะเกิดขึ้นจากการที่มีเศษอาหารติดค้างตามซอกฟันและจากคราบพลัค (plaque) ที่แปรงธรรมดาไม่สามารถทำความสะอาดได้ สำหรับปัญหาที่พบบ่อยกับผู้ที่จัดฟันแบบเหล็ก มักจะเกิดปัญหาอย่างการแปรงฟันไม่สะอาด และมีเศษอาหารติดซอกเหล็ก หรือผู้ที่ดัดฟันแบบใส ที่มีการสวมเครื่องมือจัดฟันแล้ว แต่ยังมีเศษอาหารติดอยู่ในนั้น จนทำให้แบคทีเรียก่อตัว และกลายเป็นคราบในที่สุด เมื่อทิ้งเอาไว้นาน แบคทีเรียเหล่านั้นก็จะทำลายผิวฟัน จนทำให้เกิดปัญหาเรื้อรังอย่างฟันผุและเหงือกอักเสบได้นั่นเอง
2. ปัญหากลิ่นปาก
นอกจากการที่เศษอาหารและคราบพลัคจะทำให้เกิดปัญหาฟันผุแล้ว สิ่งเหล่านี้จะก่อให้เกิดแบคทีเรียต่าง ๆ เมื่อมีแบคทีเรียก็จะทำให้เกิดกลิ่นปากตามมา ซึ่งการจัดการเรื่องกลิ่นปากสำหรับคนที่จัดฟันนั้น ก็ควรที่จะต้องแปรงฟันให้สะอาด ใช้ไหมขัดฟันเป็นประจำ และควรแปรงลิ้นด้วย เพื่อลดการสะสมของแบคทีเรียและเกิดกลิ่นปาก รวมไปถึงการดื่มน้ำเป็นประจำอีกด้วย
3. ปัญหาแผลในช่องปาก
ปัญหาแผลในช่องปากมักจะเกิดขึ้นกับคนที่จัดฟันแบบเหล็ก ซึ่งอาจเกิดการโดนลวดจัดฟันทิ่มกระพุ้งแก้มหรือเหงือกได้ จนทำให้เกิดเป็นแผลคล้ายแผลร้อนใน ซึ่งวิธีแก้นั้นก็สามารถใช้ขี้ผึ้งจากทันตแพทย์มาแปะทับลวดที่ยื่นออกมา แต่ถ้าปลายลวดยื่นออกมามากเกินไป ก็ควรต้องแจ้งทันตแพทย์เพื่อแก้ไข แต่สำหรับคนที่จัดฟันแบบใส จะไม่เจอกับปัญหานี้ เนื่องจากอุปกรณ์ที่ติดกับฟันมีขนาดเล็กกว่า จำนวนน้อยกว่า และมีความแหลมคมน้อยกว่ามาก
4. ปัญหาเหงือกร่น
สำหรับปัญหาเหงือกร่น เป็นปัญหาที่คนจัดฟันมักพบเจออยู่บ่อย ๆ มักเกิดจากการทำความสะอาดที่ไม่เพียงพอ ทำให้เกิดคราบพลัคหรือคราบขี้ฟันสะสมอยู่ และหากไม่ได้ทำความสะอาดอย่างดี เมื่อเวลาผ่านไป ก็จะก่อให้เกิดปัญหาเหงือกอักเสบได้ และถ้าเหงือกอักเสบเป็นเวลานาน หรือเป็นบ่อย ๆ ซ้ำ ๆ จะทำให้เหงือกร่น รวมไปถึงยังอาจทำให้เกิดอาการคอฟันสึก ที่เกิดจากการแปรงฟันแรงจนเกินไป เพราะเมื่อเหงือกร่นแล้วผิวของส่วนรากฟันจะโผล่ออกมา ซึ่งผิวของรากฟันมีความแข็งน้อยกว่าตัวฟัน และเมื่อแปรงฟันแรงเกินไป ก็จะทำให้เกิดฟันสึกได้ โดยเฉพาะบริเวณคอฟันจะสึกง่ายและเร็วกว่าบริเวณตัวฟัน จึงมักเกิดเป็นร่องที่คอฟัน เรียกว่า คอฟันสึกนั่นเอง
จะเห็นได้ว่า ปัญหาที่กล่าวไปข้างต้นนั้น มักจะเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งกับผู้ที่จัดฟันแบบเหล็ก และผู้ที่มีการจัดฟันแบบใส แต่สำหรับการจัดฟันใสอาจมีข้อดีอย่างการไม่ต้องใส่อุปกรณ์จัดฟันอยู่ตลอดเวลา แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ก็ต้องดูแลสุขภาพของช่องปากและฟันให้ดีอย่างสม่ำเสมอ ไม่เช่นนั้นแล้วอาจจะเกิดปัญหาอย่างที่กล่าวไปได้
วิธีการดูแลสุขภาพช่องปากขณะที่จัดฟันใส
แปรงฟันให้ถูกวิธี
การแปรงฟันอย่างถูกวิธีนั้น นอกจากจะสามารถทำความสะอาดและขจัดเศษอาหาร คราบแบคทีเรียออกจากฟันได้อย่างดี ยังเป็นวิธีดูแลช่องปากได้อย่างเหมาะสม โดยเฉพาะคนที่จัดฟันใส การแปรงฟันที่ถูกวิธีจึงเป็นเรื่องสำคัญ เพราะโอกาสที่เศษอาหารจะสะสมอยู่ตามซอกฟันจนเกิดคราบพลัค อาจเกิดขึ้นได้ ยิ่งถ้าหากได้สวมเครื่องมือจัดฟันใสกลับเข้าไปแล้วโดยที่ยังมีเศษอาหารติดอยู่ในร่องฟัน ก็อาจทำให้เกิดปัญหาคราบฟัน คราบหินปูน รวมถึงปัญหากลิ่นปากต่าง ๆ ได้
ใช้ไหมขัดฟันเป็นประจำ
ไหมขัดฟันคือส่วนหนึ่งในการทำความสะอาดฟันได้อย่างดี ไม่ว่าจะเป็นบริเวณซอกฟันหรือบริเวณที่ทำความสะอาดได้ยาก โดยการใช้ไหมขัดฟันนั้นควรใช้อย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง โดยใช้ขัดตามซอกฟันหลังรับประทานอาหาร แต่ถ้าในกรณีที่ไม่สามารถทำความสะอาดหลังการรับประทานอาหารได้ ก็ควรบ้วนปากด้วยน้ำเปล่าหลาย ๆ ครั้ง เพื่อให้เศษอาหารที่ติดตามซอกฟันและบริเวณอื่นๆ หลุดออก ก็จะช่วยให้ขณะสวมเครื่องมือจัดฟันใส ไม่เกิดคราบหรือแบคทีเรียสะสม
ใช้น้ำยาบ้วนปากที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์
เพื่อช่วยป้องกันไม่ให้ฟันผุ การบ้วนปากด้วยน้ำยาบ้วนปากที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์นั้น จะช่วยลดโอกาสการเกิดฟันผุได้ระหว่างจัดฟัน ซึ่งบางครั้งการทำความสะอาดช่องปากด้วยตัวเองก็อาจจะไม่สะอาดเพียงพอ และเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาในช่องปากอีกด้วย ทำให้การเลือกน้ำยาบ้วนปากที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ก็จะเข้ามาลดความเสี่ยงต่อการเกิดฟันผุได้
ควรใส่อุปกรณ์จัดฟันแบบใสไว้ตลอดเวลา
ในการจัดฟันแบบใส สิ่งที่ถือเป็นข้อดีก็คือสามารถถอดออกได้ตลอดเวลา แต่สิ่งสำคัญที่ต้องเข้าใจเลยก็คือ หากต้องการให้ฟันเคลื่อนที่ไปตามที่กำหนด ก็ควรที่จะต้องสวมอุปกรณ์จัดฟันไว้ตลอดเวลา อาจจะถอดออกเฉพาะตอนที่รับประทานอาหารเท่านั้น แต่สิ่งสำคัญก็คือ ต้องสวมอย่างน้อยวันละ 22 ชั่วโมง เพื่อให้ฟันเคลื่อนได้เร็ว และมีประสิทธิภาพ และนอกจากการใส่อุปกรณ์แล้ว การเคี้ยวชิววี่ (chewies) ก็เป็นอีกหนึ่งอย่างที่สำคัญของการจัดฟันแบบใสด้วย
พบกับทันตแพทย์ตามนัดหมาย
แม้ว่าการจัดฟันแบบใสจะเป็นการจัดฟันที่มีเครื่องมือจัดฟันให้มาอยู่แล้ว แต่สิ่งสำคัญก็คือ การไปพบกับทันตแพทย์ตามนัดหมาย เพื่อตรวจสุขภาพช่องปาก และความสมบูรณ์ของเหงือกและฟัน หรือหากต้องมีการขูดหินปูน หรือการทำความสะอาดช่องปากเพิ่มเติม รวมถึงติดตามการเคลื่อนที่ของแนวฟันอย่างสม่ำเสมอด้วย
เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาขณะจัดฟันใส การดูแลสุขภาพช่องปากให้ดีจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก ๆ เพื่อให้สุขภาพฟันแข็งแรง ไม่มีคราบสกปรก หินปูน กลิ่นปาก ไปจนถึงปัญหาต่าง ๆ ตามมา โดยคุณสามารถปรึกษากับทันตแพทย์ เพื่อการดูแลช่องปากขณะจัดฟันแบบใส เพื่อให้ได้ผลลัพธ์การจัดฟันอย่างที่คุณต้องการ
ที่ About Tooth เรามาพร้อมกับทีมทันตแพทย์ชั้นนำที่คอยให้การบริการและดูแลช่องปากของคุณได้อย่างเต็มที่ โดยสามารถสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับการจัดฟันแบบใสได้ที่นี่
ทพญ. ณิศรา ธนฤกษ์ชัย ทันตแพทย์ด้านทันตกรรมรากฟันเทียม ทันตกรรมจัดฟัน และเฉพาะทางด้านวีเนียร์ สำเร็จการศึกษาจากคณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีประสบการณ์การทำงานยาวนานและได้รับประกาศนียบัตรทันตกรรมในหลายสาขา ได้แก่ ทันตกรรมทั่วไปขั้นสูง ทันตกรรมรากเทียม ทันตกรรมจัดฟันขั้นสูง ประกาศนียบัตรวีเนียร์ Bootcamp และ Masterclass ตลอดจนใบรับรองผู้ให้บริการจัดฟันแบบใส Invisalign ระดับ Platinum Provider 2021 และ Zenyum ระดับ Star tier 2023
ปัจจุบันเป็นผู้ก่อตั้ง About Tooth Dental Clinic ซึ่งได้รับรางวัล World Class Award 2021 สาขา The Best of International Healthy Business ตลอดจนดำรงตำแหน่งเป็นสมาชิกของสมาคมทันตกรรมรากเทียมแห่งประเทศไทย (TADI)