การจัดฟันหรือที่คนทั่วไปมักเรียกการดัดฟัน เป็นการแก้ไขฟันในคนไข้ที่มีปัญหาดังต่อไปนี้ ได้แก่ ฟันซ้อนเก ฟันสบเปิด ฟันสบคร่อม ฟันห่าง ฟันล่างสบครอบฟันบน มีปัญหาเกี่ยวกับขากรรไกร ซึ่งการจัดฟันสามารถทำร่วมกับการผ่าตัดขากรรไกรได้ในกรณีที่ผู้ป่วยมีปัญหาเกี่ยวกับโครงสร้าง ซึ่งการแก้ไขโดยการจัดฟันอย่างเดียวนั้นจะไม่เพียงพอ
การจัดฟันไม่พียงแต่แก้ไขปัญหาเกี่ยวกับความสวยงามเพียงอย่างเดียวแต่สามารถแก้ไขเรื่องการสบฟันได้ด้วย และปรับแก้ไขเรื่องขากรรไกรได้ในกรณีผู้ป่วยที่ต้องผ่าตัดขากรรไกรร่วม
การรักษาโดยการจัดฟันสามารถแบ่งได้ 3 ประเภทได้แก่
สรุปหัวข้อสำคัญ
Toggle1. การจัดฟันแบบใส Invisalign
เป็นการจัดฟันที่ไม่มีการติดเครื่องมือที่ผิวฟัน จะใช้อุปกรณ์ที่ทำจากอคลิริก (acrylic) มีลักษณะคล้ายกับรีเทนเนอร์แบบใส (clear retainer) และมีลักษณะจำเพาะแต่ละบุคคล ในคลินิกทันตกรรม about tooth ของเราเลือกใช้การจัดฟันใสแบบ Invisalign โดยขั้นตอนการรักษามีดังนี้
ข้อดี
– ทำความสะอาดง่าย
– สวยงาม มองไม่เห็นเครื่องมือ
– เป็นธรรมชาติ
– ใช้เวลารักษาน้อย
– เห็นผลลัพธ์หลังจัดฟันได้
– สามารถวางแผนการรักษาร่วมกับทันตแพทย์ได้
– มีความแม่นยำในการรักษาสูง
– มี warranty จาก invisalign ในกรณีที่แผนการรักษาไม่เป็นไปตาม clincheck*
2. การจัดฟันแบบดาม่อน (Damons)
เป็นการจัดฟันชนิดที่มีการติดเครื่องมือบนผิวฟัน จะแบ่งเป็น 2 ประเภทคือแบบโลหะ และแบบเซรามิก (ในกรณีที่คนไข้ไม่ต้องการให้เห็นbracketชัดเจนที่ผิวฟัน) การจัดฟันประเภทนี้จะให้ผลการรักษาที่รวดเร็วมากกว่าเมื่อเทียบกับการจัดฟันแบบโลหะธรรมดา เนื่องจากการออกแบบของโลหะจะไม่มีการใส่ยางสีๆ (o-ring) รัดบริเวณbracket ทำให้ลดแรงเสียดทานระหว่างลวดและ bracket ส่งผลทำให้ฟันเคลื่อนที่ได้รวดเร็วมากกว่าปกติเป็นเท่าตัว
3. การจัดฟันแบบโลหะปกติ (normal braces)
เป็นการจัดฟันที่มีbracket ติดบนผิวฟันและยึดลวดและbracket ด้วยยางสีๆ (o-ring)
แล้วเราเหมาะกับการจัดฟันแบบไหน?
เป็นคำถามยอดฮิตมากๆเลยนะคะสำหรับการเลือกชนิดของการจัดฟัน จริงๆแล้วการจัดฟันทุกๆแบบให้ผลลัพธ์สุดท้ายออกมาเหมือนกันหมดคือฟันเรียงตัวสวยงามและมีการสบฟันที่ดี แต่เราจะเลือกจัดแบบไหนนั้นก็ขึ้นอยู่กับงบประมาณและความสะดวกสบาย รวมถึงอาชีพอีกด้วยนะคะ ยกตัวอย่างให้เห็นได้ชัดเจนอย่างเช่น ถ้าคุณทำอาชีพที่ต้องใช้หน้าตาในการทำงานอย่าง พนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน ดารานักแสดง เราก็ต้องเลือกการจัดฟันแบบ Invisalign ก็จะเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์คุณมากที่สุด หรือถ้าคุณยังเป็นนักเรียนหรือนักศึกษาที่ยังไม่มีรายได้ การจัดฟันแบบเหล็กก็จะตอบโจทย์มากกว่า เพราะค่าใช้จ่ายไม่สูงนัก (ทำให้ไม่ต้องไปรบกวนคุณพ่อคุณแม่มากเกินไป) เพราะฉะนั้นเลือกให้เหมาะสมกับตนเองจะดีที่สุดค่ะ 🙂 หรือถ้าเลือกไม่ถูกไม่มั่นใจก็สามารถเข้ามาปรึกษากับคุณหมอจัดฟันก่อนได้เลยนะคะ เพื่อไม่ให้การตัดสินใจผิดพลาดไปและให้การรักษาออกมาดีที่สุดค่ะ
ถึงตรงนี้หมอจะเขียนสรุปเป็นข้อๆให้เข้าใจง่ายๆสำหรับคนที่ยังตัดสินใจเรื่องการจัดฟันยังไม่ได้นะคะ
ใครที่ควรจัดฟันแบบใส Invisalign?
– ผู้ที่ต้องการความสวยงามในระหว่างการจัดฟัน
– ผู้ที่ทำอาชีพที่ต้องใช้หน้าตาหรือการพูดคุยเจรจา
– ผู้ที่มีวินัยในการใส่ชิ้นงาน Invisalign เพราะการจัดแบบนี้วินัยสำคัญมากสุดเลยนะคะ
– ผู้ที่อยากให้ฟันสะอาดหินปูนและฟันผุน้อยในระหว่างจัดฟัน เพราะการจัดฟันแบบใสลดโอกาสการเกิดหินปูนและฟันผุมากกว่าการจัดฟันแบบติด bracket มาก
– ผู้ที่ผ่านการจัดฟันเสร็จแล้วและยังรู้สึกว่าไม่สวยพอหรือไม่ได้ใส่รีเทนเนอร์เป็นเวลานานทำให้ฟันมีการเปลี่ยนแปลงไป
– ไม่ชอบมาพบคุณหมอบ่อยๆ มีเวลาน้อย เนื่องจากการจัดฟันแบบ Invisalign ไม่จำเป็นต้องมาพบคุณหมอทุกๆเดือนเหมือนการจัดฟันแบบเหล็กธรรมดา
ใครที่ควรจัดฟันแบบดาม่อน (Damons)
– ผู้ที่อยากให้ฟันเคลื่อนเร็ว ใช้เวลาจัดน้อย
– ผู้ที่ฟันต้องแก้ไขปัญหาค่อนข้างเยอะ
– ผู้ที่ต้องจัดฟันร่วมกับการผ่าตัดขากรรไกร
– ไม่ชอบการใส่ยางสีๆ (o-rings)
– ไม่มีเวลามาพบคุณหมอทุกๆเดือน เนื่องจากการจัดฟันแบบดาม่อนมาพบคุณหมอ 2 เดือนครั้งนะคะ
– การจัดฟันแบบดาม่อน (Damons) ก็ยังมีราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับการจัดฟันแบบเหล็กธรรมดา
ใครที่ควรจัดฟันแบบเหล็กธรรมดา
– ผู้ที่ไม่เร่งรีบในระยะเวลาจัดฟัน
– มีงบประมาณจำกัด
– ไม่ได้ทำงานที่ต้องใช้หน้าหรือต้องใช้การเจรจา
– ชอบการติด bracket และชอบใส่ยางสีๆ (o-rings)